ร่างรายงานของ WHO เผยสาเหตุ ที่มาโควิด น่าจะมาจากสัตว์

ร่างรายงานของ WHO เผยสาเหตุ ที่มาโควิด น่าจะมาจากสัตว์

CNN ได้รับร่างรายงานจาก WHO ที่เปิดเผยสาเหตุ ที่มาโควิด โดยชี้ว่าไม่น่าจะหลุดจากห้องทดลองและมาจากสัตว์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม สำนักข่าว CNN เปิดเผยร่างรายงานผลสำรวจการหาต้นตอของโรคโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจเมืองอู่ฮั่น อดีตศูนย์กลางการแพร่ระบาด เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

โดยในรายงานระบุว่าไม่พบหลักฐานชี้ว่าเชื้อไวรัสได้ออกมาแพร่ระบาดก่อนช่วงสิ้นปี 2562 

และมีความเป็นไปได้น้อยมากที่เชื้อไวรัสจะหลุดออกมาจากห้องทดลอง ตามที่ทั้งนาย โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือ ทางการจีนกล่าวอ้างไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งในรายงานชี้ว่าข้อสันนิษฐานที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือเชื้อไวรัสเริ่มต้นการแพร่ระบาดขึ้นจากสัตว์ ก่อนที่เชื้อไวรัสจะแพร่ไปยังสัตว์ชนิดอื่น และแพร่ระบาดสู่มนุษย์อีกที อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ไม่พบสัตว์ชนิดใดที่ได้รับการแพร่เชื้อจาก ‘ค้างคาว’ สัตว์ที่หลายฝ่ายเชื้อว่าเป็นต้นเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019

อีกข้อสันนิษฐานนึงที่ทางเจ้าหน้าที่ได้วางเอาไว้คือ เชื่อว่าไวรัสแพร่กระจากโดยตรงจากค้างคาว หรือ ตัวลิ่น สู่มนุษย์โดยตรง ในส่วนของความเป็นไปได้ที่เชื้อแพร่กระจายสู่อาหารแช่แข็งถือว่ามีความเป็นไปได้ต่ำ

อย่างไรก็ตามนาย โรเบิร์ต เรดฟิลด์ อดีตผู้กำกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC ออกมาแสดงความเห็นว่า รายงานชนิดนี้ไม่น่าเป็นจริง พร้อมชี้ว่าเชื้อไวรัสน่าจะถูกปล่อยออกมาจากห้องทดลอง

โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “พักหลังเห็นโพสต์​แนวนี้บ่อยๆในกลุ่มคนไข้ไตเรื้อรัง นัยว่า “#อยากขายไต” เพื่อเอาเงินมาตั้งต้นชีวิตใหม่ แม้กระทั่งในหน้าหนังสือพิมพ์​ก็มีให้เห็นเนืองๆ…แต่คนเหล่านี้เค้ารู้ไหมว่า การจะเป็นผู้บริจาค​มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น มันต้องคัดเลือกทั้งความสมบูรณ์​ของร่างกายและอวัยวะ ความเข้ากันได้ของเนื้อเยื่อ

ขนาดญาติที่มี”ความสัมพันธ์​ทางสายเลือด” ยังไม่ได้จะmatchกันง่ายๆเลย  นอกจากจะ” ผิดกฎหมาย” แล้ว รพ.ไหนๆก็ไม่รับทำให้ทั้งนั้น เพราะผลลัพธ์​ที่ได้ทั้งคนให้และคนรับมักดูไม่จืด คนที่รับก็ได้ของไม่ดี คนที่ให้ก็เสี่ยงต่อการเป็นผู้ป่วยไตวายในอนาคต

ถ้าเคยได้ยินข่าวหนุ่มจีน #ขายไตแลกไอโฟน เมื่อหลายปีก่อน.. สุดท้ายต้องพิการนอนติดเตียง ฟอกไตไปตลอดชีวิต ก็เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน และที่สำคัญ… ราคาของไตหนึ่ง​ข้าง อาจจะได้แค่iphone 12 เพียงหนึ่ง​เครื่อง​เท่านั้น ไม่เพียงพอจะปลดหนี้ใดๆ เพราะฉะนั้น​คิดดีๆ ก่อนคิดจะทำอะไร

สผ. ร่วมมือ กรมทรัพยากรน้ำ และ UNPD จัดกิจกรรม วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก 2564

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ร่วมกับ กรมทรัพยากรน้ำ และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNPD) จัดกิจกรรมเนื่องใน วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ประเทศไทยร่วมลงนามเป็นภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ หรืออนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) เป็นลำดับที่ ๑๑๐ ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศที่ต้องการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ

โดยการสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาด โดยมีสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหน่วยงานประสานงานกลางอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ (National Focal Point) และทุกวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ของทุกปี สำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ กำหนดให้เป็นวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก และขอความร่วมมือภาคีจัดกิจกรรมในวันดังกล่าว

ในปี ๒๕๖๔ สำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ ได้กำหนดหัวข้อการจัดกิจกรรมเนื่องใน วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก คือ พื้นที่ชุ่มน้ำและน้ำ (Wetlands and Water) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันของน้ำและระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งน้ำเปรียบเสมือนต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยและพึ่งพาน้ำเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต

ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้ำ ที่ใช้น้ำเป็นแหล่งอาศัย และเพาะขยายพันธุ์ หรือแม้กระทั้งสัตว์บกหรือพืชพรรณต่าง ๆ ที่อาศัยทรัพยากรซึ่งเป็นผลมาจากน้ำ เพื่อใช้เป็นแหล่งอาหาร ในอีกด้านหนึ่งน้ำก็ต้องอาศัยระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อเป็นแหล่งในการควบคุมรักษาคุณภาพน้ำ ซึ่งมีพรรณพืชนานาชนิดช่วยในการบำบัดคุณภาพน้ำ ดังนั้น การสร้างความตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้พื้นที่ชุ่มน้ำสามารถดำรงอยู่เพื่อเกื้อกูลสิ่งมีชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ กรมทรัพยากรน้ำ และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) จึงจัดกิจกรรมเนื่องในวันพื้นที่ชุ่มน้ำ ประจำปี ๒๕๖๔ เรื่อง Wetlands and Water ผ่านทางสื่อออนไลน์ Facebook: Biodiversity CHM Thailand เพื่อประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และประชาชนที่เกี่ยวข้อง ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความเชื่อมโยงกันระหว่างพื้นที่ชุ่มน้ำและน้ำ

ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตและความมั่นคงทางอาหารของมนุษย์ และเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องเกิดความหวงแหนในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่มน้ำอย่างยั่งยืน รวมทั้งสามารถนำประสบการณ์และความรู้จากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้กับพื้นที่ชุ่มน้ำอื่น ๆ ต่อไป โดยกิจกรรมภายในงานมีการนำเสนอสารจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป